ฺBlog

แสงและเงาในการออกแบบ   แสงของานออกแบบนั้น ขอกล่าวถึง แสงประดิษฐ์ คือหลอดไฟกับแสงธรรมชาติ ดวงอาทิตย์  ความสวยงามของการออกแบบคือจัดแสงได้อย่างลงตัว ยกตัวอย่างแสงประดิษฐ์ในห้องพื้นที่ 1 พื้นที่ถ้าแสงมากไปก็อาจจะไปกลบความงาม ความละมุน ของพื้นผิววัสดุนั้นๆ   หากแสงน้อยไป ก็อาจใช้งานในพื้นที่ไม่ทะมัดทะแมงนัก จำนวนของหลอดไฟ และค่า K ของแสงหลอดไฟแต่ละดวง   ล้วนมีผลกับการออกแบบทั้งสิ้น ผู้ออกแบบจึงต้องควรคำนึงถึง ในจุดนี้   ส่วนแสงธรรมชาตินั้น ในยามกลางวัน  ผู้ออกแบบที่ละเอียดลึกซึ้งบางท่าน  อาจมองถึงเรื่องเวลาแสงตกทอดผ่านเข้ามาในห้อง เส้นสายของเงาที่เกิดขึ้น จะทึบหรือโปร่ง การโชว์เส้นสาย ของรูปทรงเฟอร์นิเจอร์ หรือวัตถุใดๆก็ตาม ที่อยู่บริเวณนั้น ก็อาจจะให้ความโรแมนติกอย่างหนึ่งในยามกลางวัน

  เสน่ห์บนผนังของงานตกแต่ง บนผืนผนังก็อาจเปรียบเหมือนแผ่นกระดาษ 1 แผ่น ถ้าแบนๆก็อาจจะดูธรรมดาเกินไป การใส่ลูกเล่นลงไปก็คือทำให้เกิดการมีมิติ การยุบเข้าหรือนูนออกมา ทำให้เกิดมิติเพิ่มความมีเสน่ห์ให้กับผนังนั้นๆ การทับซ้อนวัสดุ หรือการใส่คิ้วต่างๆ จะเพิ่มความมีเสน่ห์ดูไม่น่าเบื่อ รวมถึงการสะท้อนของวัสดุมันวาว เช่นกระจก ทำให้เกิดมิติทับซ้อนของเงาสะท้อนอีกด้านหนึ่ง ถึงจะเป็นสไตล์มินิมอล ก็ไม่ใช่ว่าจะต้องเรียบจนเกินไป  ส่วนนี้ก็แล้วแต่ผู้ออกแบบจะพิจารณา ใส่เติมแต่งลงไปในสไตล์นั้นๆ

หากเปรียบการตกแต่งภายในเหมือนการชงกาแฟ งานออกแบบและตกแต่งภายใน  เปรียบเสมือนการชงกาแฟ  กาแฟมีหลายเมนูก็เปรียบเสมือนสไตล์ที่แตกต่างกันออกไป   การปรุงกาแฟให้รสชาติกลมกล่อมออกมาลงตัว  ปริมาณกาแฟ  นม น้ำตาล   ไม่มากไป ไม่น้อยไปในสัดส่วนของตัวเอง    คงความเอกลักษณ์ของเมนูนั้น    และยังบ่งบอก ไลฟ์สไตล์ เอกลักษณ์ของผู้ดื่มนั้นด้วย